บริษัท ไทยรุ่งเรือง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับจังหวัดอุทัยธานี จัดงาน “จากเส้นใบ สู่เส้นใย” ผลักดันนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

บริษัท ไทยรุ่งเรือง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับจังหวัดอุทัยธานี จัดงาน “จากเส้นใบ สู่เส้นใย” ผลักดันนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

 

13 พฤศจิกายน 2567 – บริษัท ไทยรุ่งเรือง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมมือกับจังหวัดอุทัยธานี จัดงาน “จากเส้นใบ สู่เส้นใย” เพื่อส่งเสริมการจัดการของเหลือทางการเกษตรด้วยนวัตกรรมใหม่ ในการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือทิ้ง และลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 สำหรับปีการผลิต 2567/2568 ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย นายชนะ อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการ และ นายสิริ อัษฎาธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรุ่งเรือง คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนเข้าร่วมกิจกรรม โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การสาธิตกระบวนการผลิตเส้นใยจากใบอ้อย การจัดนิทรรศการแสดงผลงานนวัตกรรม และการให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของเส้นใยจากธรรมชาติ

นายชนะ อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรุ่งเรือง คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การนำใบอ้อยมาแปรรูปเป็นเส้นใยเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ นับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ช่วยลดปัญหาการเผา และยังเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรัณย์ จันทร์แก้ว อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ซึ่งเป็นผู้ร่วมพัฒนานวัตกรรมนี้ กล่าวว่า “วิธีการผลิตเส้นใยจากใบอ้อยที่เรานำมาใช้ เป็นวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถผลิตเส้นใยที่มีคุณภาพดีเทียบเท่าเส้นใยธรรมชาติชนิดอื่นๆ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายชนิด เช่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และวัสดุตกแต่งภายใน”

โครงการ “จากเส้นใบ สู่เส้นใย” นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดอุทัยธานี บริษัท ไทยรุ่งเรือง คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป